วัดหนองบัว

วัดหนองบัว

เป็นวัดไทลื้อลักษณะผสมแบบไทลื้อและล้านนาแต่ยังคงลักษณะไทลื้อไว้มากมีอิทธิพลของวิหารล้านนาตั้งแต่ลักษณะผังโถงด้านหน้า และ ประตูด้านหน้า1 บานมีหลังคาคลุมมีแสงจากช่วงลดระดับหลังคา

ส่วนล่าง : ฐานวิหาร ฐานวิหารสร้างบนผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าลดผังอาคารด้านหน้าเฉพาะ ส่วนที่เป็นมุขโถงคลุมบันไดในแนวแกนตะวันออก-ตะวันตก ฐานวิหารยกสูงจากพื้นแบบฐานบัวคว่าก่ออิฐฉาบ ปูนลดสอบเข้าหาผนังวิหาร

ส่วนกลาง : ผนังวิหาร เสาวิหาร แนวผนังวิหารก่ออิฐขนาดใหญ่ฉาบปูนหนาผิวไม่เรียบสร้างจากฐานบัวคว่ำล้อมพื้นที่ภายในอาคารทำให้เป็นวิหารแบบทึบผนังแต่ละช่วงมีของแต่ละด้านมีความสูงไม่เท่ากันแต่จะลดระดับตามการลดชั้นของหลังคา

ส่วนบน : หลังคา โครงสร้างรับน้ำหนัก หลังคาวิหารมุงด้วยกระเบื้องดินเผาตามแบบโบราณที่เรียกว่า "กระเบื้องดินขอ" ไม่เคลือบผิว เป็นทรงจั่วหันหน้าไปในทิศตะวันออก

วัดดอนมูล

วัดดอนมูล

มีรูปทรง และแผนผัง ลักษณะสถาปัตยกรรมไทลื้อแบบดั้งเดิม ด้วยคติไทลื้อ มีความเรียบง่าย มีเครื่องประดับตกแต่ง การเน้นบริเวณฐานชุกชี และ พระประฐานด้วยการประดับกระจกสี

องค์ประกอบทางโครงสร้าง

ส่วนล่าง : ฐานวิหาร

ฐานวิหารสร้างในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่ออิฐฉาบปูนไม่เรียบเท่าที่ควร ยกสูงจากพื้นตกแต่งเป็นชั้นในรูปแบบของฐานบัวคว่ำลดสอบเข้าหาผนังวิหาร

องค์ประกอบเครื่องไม้

หน้าแหนบ หรือหน้าบันหรือหน้าก้อง คือส่วนที่เปิดโครงของหลังคาทรงจั่วด้านหน้าวิหาร ของหลังคาทรงจั่วชั้นบนทำเลียนแบบส่วนของขิ้อต่างๆ

วัดร้องแง

วัดร้องแง

วัดไทลื้อลักษณะผสล้านนาจนเกือบดูไม่ออกเหลือโครงสร้างภายในและรูปแบบผังพื้นผนังโปร่งแบบไทลื้อไว้และมีโครงสร้างคานไม้ที่ยึดเสาหลวงไว้ด้วยกัน

องค์ประกอบทางโครงสร้าง

ส่วนล่าง : ฐานวิหาร

ฐานวิหารสร้างในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่ออิฐฉาบปูน ยกสูงจากพื้น แบบหน้ากระดานตกแต่งเป็นฐานบัวคว่ำลดสอบเข้าหาแนวผนัง

ส่วนกลาง : ผนังวิหาร เสาวิหาร

ผนังวิหารส่วนล่างก่อจากฐานเป็นปูนทึบทาสีขาว ผนังส่วนบนก่ออิฐบล็อกโปร่ง สูงจรดหลังคาล้อมพื้นที่ภายในวิหาร

องค์ประกอบทางศิลปกรรม

แบ่งองค์ประกอบทางศิลปกรรมตามวัสดุการสร้าง คือ วัสดุที่เป็นไม้ และวัสดุที่เป็นปูน

องค์ประกอบเครื่องไม้

หน้าแหนบของวิหารวัดร้องแงใช้แผ่นไม้ตีปิดส่วนโครงสร้างหน้าจั่ว ประดับไม้ฉลุแกะสลักเป็นลวดลายก้านขด

วัดต้นแหลง

วัดต้นแหลง

มีรูปทรงสะดุดตา และ แสดงลักษณะทางสถาปัตยกรรมไทลื้อแบบดั้งเดิมได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะโครงสร้างหลังคาที่ซ้อน 3 ชั้นแห่งเดียว แสดงภูมิปัญญาของชาวไทลื้อได้ดีที่สุด

องค์ประกอบทางโครงสร้าง

ส่วนล่าง : ฐานวิหาร

ฐานวิหารสร้างในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่ออิฐฉาบปูนขนาด 7 ห้อง ยกสูงจากพื้นประมาณ 120 เซนติเมตรในรูปแบบของฐานบัวคว่ำ บัวหงาย

ส่วนกลาง : ผนังวิหาร เสาวิหาร

แนวผนังก่ออิฐขนาดใหญ่ฉาบปูนหนาสร้างจากฐาน สูงจรดชายคาทรงตะคุ่มทั้งสี่ด้าน ล้อมพื้นที่ภายในวิหาร

องค์ประกอบทางศิลปกรรม

องค์ประกอบเครื่องไม้

หน้าแหนบ หรือหน้าบัน หน้าก้องเป็นส่วนที่เปิดโครงของหลังคาด้านหน้าวิหาร วิหารวัดต้นแหลงใช้แผ่นไม้ยาวตีแนวเฉียงตกแต่งเลียนแบบรัศมีของดวงตะวัน

ช่อฟ้า สลักไม้เป็นรูปช่อฟ้าแบบภาคกลาง

หางหงส์ สลักแผ่นไม้เป็นรูปพญานาคติดประกอบกันสามเศียร ที่ทอดตัวตามป้านลมห้อยเศียรมาที่หางหงส์

วัดหนองแดง

วัดหนองแดง

มีรูปทรงด้านหน้าเรียบง่าย แสดงลักษณะทางสถาปัตยกรรมไทลื้อแบบดั้งเดิมได้ดี มีอิทธิพลของศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนา โครงสร้างภายในเป็นแบบไทลื้อแต่มีความคล้ายกับแบบล้านนา

องค์ประกอบทางโครงสร้าง

ส่วนล่าง : ฐานวิหาร

ฐานวิหารมีผังสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่ออิฐฉาบปูนขนาด 6 ห้อง ยกสูงจากพื้น แบบฐานเขียงหน้ากระดานชั้นบนเป็นแบบบัวคว่ำลดสอบเข้าหาผนังหนึ่งชั้น

ส่วนกลาง : ผนังวิหาร เสาวิหาร

แนวผนังที่ล้อมพื้นที่ภายในวิหารก่ออิฐขนาดใหญ่ ฉาบปูนหนาสร้างจากฐานสูงจรดชายคาทรงตะคุ่ม คลุมทั้งสี่ด้าน

องค์ประกอบทางศิลปกรรม

องค์ประกอบเครื่องไม้

หน้าแหนบ ส่วนที่เปิดโครงของหลังคาด้านหน้าวิหาร วิหารวัดหนองแดงใช้แผ่นไม้ตีตามยาวในแนวตั้งกรุปิดโครงสร้างหน้าจั่ว

องค์ประกอบศิลปกรรมเครื่องปูน

แท่นพระประธาน ก่ออิฐฉาบปูนมีพนักด้านหลังพระประธาน ปั้นประดับนาคปูนปั้นสองตัว เลื้อยลงมาจากพนักด้านหลัง

รายละเอียดพิเศษ

องค์ประกอบ เรือนไทลื้อ จังหวัดน่าน

เสาแหล่งหมา

เสาแหล่งหมา

เป็นเสาโครงสร้างสูงจากพื้นถึงอะเสของเรือนตำแหน่งอยู่ตรงบันไดหลักของเรือน ซึ่งของชาวไทลื้อในสิบสองปันนา นิยมผูกสุนัขไว้เฝ้าบ้าน

ชานแล้ง

ชานแล้ง หรือ จานแล้ง

เป็นส่วนชาน อยู่ในตำแหน่งเมื่อขึ้นเรือน ในส่วนนี้แบ่งออกเป็นสองส่วน สังเกตได้จากการตีเว้นร่องพื้นที่ห่างประมาณ 2 นิ้ว

ชาน

ชาน หรือ จาน

พื้นที่ที่อยู่ติดกับจานแล้ง อยู่ตรงตำแหน่งติดกับบันไดมาสู่ตัวเรือน จุดสังเกตคือ ตีพื้นเรือนชิด อยู่ใต้ชายคาและมีหลังคาคลุม

หัวแท่น

หัวแท่น

พื้นที่ยกระดับจากชานเรือน มักอยู่ติดกับทางขึ้นเรือนและมีบันไดกั้นระหว่างบันไดเรือนและผนังภายนอก นิยมใช้เป็นที่พักของแขกและที่นอนของลูกชาย

หัวแท่น2

หัวแท่น

พื้นที่ยกระดับจากชานเรือน มักอยู่ติดกับทางขึ้นเรือนและมีบันไดกั้นระหว่างบันไดเรือนและผนังภายนอก นิยมใช้เป็นที่พักของแขกและที่นอนของลูกชายเมื่อกลับบ้านตอนดึก ขนาดของพื้นที่มีแค่เพียงพอต่อการปูเสื่อนอน

ชานเรือน

ชานเรือน หรือ จานเรือน หรือ โถงเรือน

งานสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ล้านนา นิยมเรียกส่วนนี้ว่าเติ่น เป็นส่วนเชื่อมพื้นที่บนเรือน พื้นที่นี้ใช้สัญจรภายในเรือน

ชานน้อย

ชานน้อย หรือ จานน้อย

เป็นพื้นที่ชานขนาดเล็กอยู่หลังเรือน พื้นที่ส่วนนี้มักมีการบากพื้นเป็นร่องขนาดเล็ก พื้นที่นี้ในอดีตใช้เป็นที่ขับถ่ายของสตรีในตอนกลางคืน เพื่อความสะดวก

บันไดรอง

บันไดรอง หรือ คะได หรือ ขั้นได

เป็นบันไดหลังบ้าน อยู่ติดกับแม่เตาไฟ เมื่อขึ้นมาพบชานเรือน ใช้เป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร

เล้าข้าว

เล้าข้าว หรือ ยุ้งข้าว

เป็นพื้นที่เก็บข้าว ขนาดสูงกว่าพื้นเรือน มีโครงสร้างพื้นที่หนาแน่นกว่าพื้นเรือน ใช้เป็นพื้นที่เก็บข้าวของเกษตรและงานช่าง มักเป็นพื้นที่เปิดโล่ง

หิ้งบูชาข้าว

หิ้งบูชาข้าว

ใช้ในการบูชาข้าว หรือ สิ่งของต่างๆ ตามความเชื่อ มักอยู่ในบริเวณ ชาน หรือ หัวแท่น ของเรือน

ฮ้างน้ำ

ฮ้างน้ำ

ตำแหน่งวาง หม้อน้ำ สำหรับดื่ม วางไว้ที่เดียวกับชานสำหรับต้อนรับแขก

ส่วนนอน

ส่วนนอน

เป็นพื้นที่บนเรือน มีผนังปิดกั้น มีมุ้ง มุ้งเป็นสีดำ เกิดจากควันของแม่เตาไฟ ในอดีตทุกคนนอนรวมในห้องเดียว

จากการค้นคว้าหาข้อมูล ทั้งเอกสารและการสำรวจ ทางสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ในบทความนี้ พบการศึกษาทางสถาปัตยกรรมไทลื้อในภาคเหนือของไทย

และ ในจังหวัดน่าน จำนวน 14 เรือน โดยแบ่งเป็นเรือนที่ได้จากการค้นคว้าทางเอกสาร จำนวน 7 เรือน ภาพที่จากการลงพื้นที่สำรวจ จำนวน 7

เรือนโดยเมื่อนำมาศึกษา ถึงความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ และ ขนาดสัดส่วนของพื้นที่ ในแต่ละเรือนไทลื้อ โดยสามารถแบ่งการใช้พื้นที่

ลักษณะเด่น วิหารไทลื้อ จังหวัดน่าน

จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานและจากการสำรวจศึกษาวิหารไทลื้อ 5 หลัง ได้แก่ วิหารไทลื้อวัดดอนมูล อำเภอท่าวังผา วิหารไทลื้อวัดหนองบัว อำเภอท่าวังผา

วิหารไทลื้อวัดต้นแหลง อำเภอปัว วิหารไทลื้อวัดร้องแง อำเภอปัว และวิหารวัดหนองแดง อำเภอเชียงกลาง เปรียบเทียบเพื่อหาเอกลักษณ์โดยใช้

กรณีศึกษาวิหารไทลื้อในเมืองสิงแขวงหลวงจำนวน 3 หลัง ได้แก่ วิหารวัดบ้านมอน วิหารวัดน้ำแก้วน้อย วิหารวัดเชียงใจและวิหารไทลื้อวัดปากคาน

วัดทาดหลวง ในเมืองหลวงพะบาง แขวงหลวงพะบางในการเปรียบเทียบรูปแบบวิหารไทลื้อแบบดั้งเดิมและการพัฒนาของวิหารไทลื้อสามารถสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้

ลักษณะที่ตั้งและการจัดวางผังอาคาร

การสร้างวิหารทั้ง 5 หลัง สร้างในแนวแกนตะวันออก-ตะวันตก โดยหันหน้าทางทิศตะวันออก วิหารตั้งอยู่ในเขตพุทธาวาส ลักษณะผังวิหารเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าผนังด้านสกัดกว้าง 1 ช่วงเสา และมีปีกนกทั้ง 2 ข้าง ขนาดยาว 7 ห้อง ได้แก่ วิหารวัดต้นแหลง วิหารวัดร้องแง วิหารวัดหนองบัว ผนังอาคารมีการเจาะช่องหน้าต่างขนาดเล็กเปิดประตูหลายด้านวิหารวัดหนองแดงเปิดประตูด้านหลังพระประธานวิหารวัดดอนมูลเคยมีประตูด้านหลังพระประธานแต่ปิดไป

รูปแบบของวิหาร

รูปแบบวิหารไทลื้อทำการศึกษาแบ่งได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นวิหารทรงฮ่างหงส์ ลักษณะวิหารมีรูปทรงเตี้ยหลังคาคลุมต่ำคล้ายลักษณะอาการของหงษ์ที่กางปีกปกป้องลูก ผังพื้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหลังคาปีกนกคลุม 4 ด้าน ซ้อนชั้นบนสุดด้วยหลังคาจั่ว ได้แก่ วิหารวัดดอนมูล วิหารวัดต้นแหลง วิหารวัดหนองแดง กลุ่มที่สองเป็นวิหารทรงโรง ลักษณะผังเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาจั่วเปิดซ้อน 2 ตับ หลังคาคลุมต่ำ มีผนังเตี้ยมีมุขโกงด้านหน้า ตัววิหารยกสูง ลักษณะคล้ายวิหารล้านนา ได้แก่ วิหารวัดหนองบัว วิหารวัดร้องแง

การจัดพื้นที่ในวิหาร

การจัดพื้นที่ภายในวิหารไทลื้อขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ส่วนฐานชุกชี หรือแท่นพระประธาน เป็นแท่นปูนลอยตัวอยู่ในช่วงเสากลางก่อนห้องสุดท้าย บางวิหารมีผนังด้านหลังพระประธาน เช่น ที่วิหารวัดหนองแดง แบบตั้งแท่นแก้วชิดผนังด้านหลังวิหารภายในวิหารวัดร้องแงและวิหารวัดหนองบัวด้านขวาของแท่นพระประธาน หรือฐานชุกชีจะมีธรรมาสน์สำหรับสงฆ์ขึ้นเทศน์ และมีแท่นยาวเป็นอาสนสงฆ์ชิดผนังด้านขวาถัดจากธรรมาสน์ พื้นที่กลางวิหารด้านหน้าพระประธานเป็นพื้นที่ของฆราวาสประกอบศาสนกิจ ประตูทางเข้าวิหารพบมีตั้งแต่ 2 ประตูขึ้นไป ได้แก่ ประตูทางเข้าด้านหน้าสำหรับทางเข้าวิหารหลักด้านทิศตะวันออก วิหารวัดหนองแดงเป็นวิหารที่มีประตูทางเข้า3ด้านคือด้านหน้าทิศตะวันออกด้านหลังพระประธานทิศตะวันตกและด้านทิศเหนือ

ลักษณะโครงสร้างของวิหาร

โครงสร้างวิหารไทลื้อ เป็นแบบเสาและขื่อคานร่วมกับผนังรับน้ำหนัก เนื่องจากวิหารไทลื้อต้องการที่ว่างภายในขนาดใหญ่ เพื่อการใช้พื้นที่ภายในทำให้โครงสร้างหลังคามีขนาดใหญ่ ใช้เทคนิคในการก่อสร้างแบบไทลื้อที่นำภูมิปัญญาในการก่อสร้างมาจากถิ่นฐานเดิมผสมกับภูมิปัญญาท้องถิ่นใหม่ เพื่อต้องการก่อสร้างรูปแบบของหลังคาที่เน้นรูปลักษณ์ภายนอกให้เป็นสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาตามคติธรรมความเชื่อที่นิยม

โครงสร้างวิหาร

วิหารไทลื้อในจังหวัดน่านทุกหลังมีโครงสร้างหลังคาเป็นไม้ โดยใช้เสาหลวงขนาดใหญ่รับน้ำหนักขื่อโครงสร้างหลังคาจั่ว กลางวิหารที่เน้นทรงจั่ว บางแห่งมีเสายกเก็จผนังช่วยรับน้ำหนักหลังคาปีกนกด้านข้าง บางแห่งใช้ผนังทั้งผืนรับน้ำหนักซึ่งเป็นวิธีการแบบล้านนาถ่ายน้ำหนักลงสู่ฐานของตัววิหาร บางแห่งมีการใช้ค้ำยันช่วยในการรับน้ำหนักชายคา เช่น วิหารวัดหนองแดง วิหารวัดร้องแง

วิหารแบบฮ่างหงส์มีลักษณะหลังคาที่ซ้อนจั่วไว้ด้านบนด้านล่างเป็นหลังคาปีกนกคลุมรอบวิหารทั้ง 4ด้าน โครงสร้างหน้าจั่วมีระบบโครงสร้างที่ใช้แปรางบนหัวเสาหลวง และตั้งตุ๊กตารับขื่อโท ลักษณะคล้ายโครงสร้างม้าต่างไหมของล้านนาซึ่งพบในวิหารวัดดอนมูล วิหารวัดหนองแดง

ในกรณีวิหารวัดต้นแหลงนั้นเป็นหลังคาซ้อนชั้น 3 ชั้น เป็นโครงสร้างแบบพิเศษโดยชั้นบนสุดเป็นจั่วชั้นล่างเป็นหลังคาปีกนก ซ้อนกัน 2 ชั้น โดยมีคอสองเชื่อมระหว่างหลังคาจั่วและปีกนก

ระบบโครงสร้างวิหารแบบทรงโรงหรือวิหารที่มีอิทธิพลวิหารล้านนา หลังคาใช้โครงสร้างระบบโมคือการวางขื่อหลวงพาดหัวเสารับน้ำหนักขื่อตามลำดับมีลักษณะคล้ายม้าต่างไหมของล้านนา ผนังวิหารก่ออิฐฉาบปูนเปิดช่องหน้าต่างขนาดเล็ก เพราะต้องการใช้ผนังช่วยรับน้ำหนักของโครงสร้างหลังคาปีกนก

ในการศึกษาพบการทำผนังเตี้ยด้านบนโปร่งเป็นไม้ ใช้เสารับโครงสร้างปีกนกแทนผนังที่วิหารวัดร้องแง ทำให้ผนังวิหารวัดร้องแงโปร่งกว่าวิหารอื่น การระบายอากาศดีกว่า พบขื่อไม้สี่เหลี่ยมในแนวผนังและเสาหลวงในแนวยาวยึดเสา 6 คู่

องค์ประกอบศิลปกรรมและการตกแต่ง

วิหารไทลื้อทั้ง 2 กลุ่ม มีองค์ประกอบการตกแต่งที่คล้ายคลึงกัน โดยการสื่อความหมายถึงสวรรค์ และเพื่อถ่ายทอดคติความเชื่อคำสอนออกมาเป็นสื่อสัญลักษณ์ บันไดทางขึ้นวิหารทั้งบันไดนาคที่วิหารวัดดอนมูลและวิหารวัดต้นแหลงพร้อมด้วยสิงห์ปูนปั้นคล้ายแบบพม่า สิงห์หน้าวิหารวัดหนองบัวมีลักษณะคล้ายแบบภาคกลาง บันไดตัวเหงาพบที่วิหารวัดร้องแงเป็นแบบที่นิยมในล้านนา

องค์ประกอบเครื่องบนส่วนประดับหลังคา ช่อฟ้าหรือโหง่ว วิหารไทลื้อจังหวัดน่านใช้เป็นนาคเป็นปูนปั้นและไม้แกะสลัก สันหลังคาวิหารวัดดอนมูลเป็นลำตัวพญานาคทอดยาวตามสันหลังคา ปลายหางเกี่ยวพันกลางหลังคาวิหารมีฉัตรปักด้านบน หางหงส์ที่พบเป็นรูปนาค ส่วนมุมสันหลังคาวิหารวัดดอนมูลมีการประดับเป็นปูนปั้นรูปนาค นกหัสดีลิงค์ หงส์ และเขาพนม วิหารวัดต้นแหลงมีการประดับด้วยนาคสามเศียร

หน้าจั่วมีทั้งแบบที่รับอิทธิพลล้านนาที่วิหารวัดต้นแหลงพบได้ที่วิหารในสปป.ลาว ภายในวิหารมีการประดับหัวเสาด้วยบัวสีทอง มีการทำลวดลายปิดทองประดับกระจกสี แท่นพระหรือฐานชุกชี มีการตกแต่งดาวเพดาน ตกแต่งคอสอง มีการเขียนภาพจิตรกรรมพบที่วิหารวัดหนองบัว ธรรมาสน์ปูนปั้นพบการปั้นปูนประดับกระจกสี

วิหารไทลื้อทรงฮ่างหงส์ เช่น วิหารวัดดอนมูล วิหารวัดหนองแดง วิหารวัดต้นแหลง ชั้นหลังคาประดับสัตว์ในสวรรค์หรือหิมพานต์ตั้งแต่ช่อฟ้า สันหลังคา หางหงส์เป็นเครื่องหมายแสดงเครื่องหมายของจักรวาลตามคติของชาวไทลื้อ การซ้อนหลังคาปีกนกและทรงจั่วไม่โค้งเหมือนไทลื้อในหลวงพะบางและหลวงน้ำทา วิหารกลุ่มนี้ยกฐานอาคารสูง ผนังก่ออิฐรอบอาคารจรดขื่อโทหรือก่อสูงเต็มผนัง ใช้ผนังรับน้ำหนักชายคาปีกนก ซ้อนหลังคาปีกนกและหลังคาทรงจั่วที่มีโครงสร้างแบบโกม หลังคาไม่ซ้อนชั้นมากเหมือนในเขตสิบสองปันนา ไม่มีเสาโตนอย่างวิหารไทลื้อสิบสองปันนาแต่เหมือนวิหารไทลื้อในหลวงพะบาง แสดงแรงบันดาลใจจากรูปแบบและคติความเชื่อเดิมจากรูปแบบวิหารไทลื้อสิบสองปันนา แต่พัฒนาด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นรูปแบบวิหารไทลื้อจังหวัดน่าน

ส่วนวิหารไทลื้อทรงโรงเช่น วิหารวัดหนองบัว วิหารวัดร้องแงเป็นวิหารไทลื้อทรงโรงที่พบในชุมชนชาวไทลื้อเฉพาะจังหวัดน่านเท่านั้น ไม่นิยมสร้างวิหารทรงนี้ในสิบสองปันนาและหลวงพะบางด้วยรูปแบบการก่อฐานสูงในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผนังวิหารทึบหลังคาปีกนกคลุมต่ำ ซ้อนหลังคาลดหน้า-หลัง 1 ซด ซ้อนกัน 2 ตับใช้ระบบโครงสร้างโกมคล้ายวิหารล้านนาที่ใช้โครงสร้างม้าต่างไหม สะท้อนให้เห็นแรงบันดาลใจและอิทธิพลทางรูปแบบวิหารล้านนาบางส่วน รูปแบบและคติความเชื่อของชาวไทลื้อในสถาปัตยกรรมวิหารไทลื้อจังหวัดน่านแสดงเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นแบบเดียวกับวิหารในเมืองน่าน

ดาวน์โหลดแบบ วิหารไทลื้อ